2025

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 สาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหารไทยและอาหารนานาชาติ วิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี นำโดย อาจารย์วัชรีญา ธรรมสอน พร้อมด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ได้รับเชิญเป็น วิทยากร ในกิจกรรมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่อาชีพ ณ โรงเรียนบ้านเขานาใน อำเภอเกาะสมุย โดยคณะอาจารย์และนักศึกษาได้ถ่ายทอดความรู้ในหัวข้อ “การแปรรูปกล้วย” ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Workshop) ที่ให้น้องๆ ได้ลงมือทำเมนูแปรรูปกล้วยด้วยตนเอง เช่น บัตเตอเค้กกล้วยตาก กล้วยกรอบทอดสมุนไพร มัฟฟินกล้วยน้ำหว้า คุกกี้กล้วยไร้แป้ง และบราวนีกล้วยน้ำหว้า ภายใต้การดูแลและคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากพี่ๆ นักศึกษา บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เด็กๆ ภูมิใจในผลงานที่ทำขึ้นเอง พร้อมทั้งได้รับแรงบันดาลใจในการเห็นคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่น และแนวทางในการต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education) สนับสนุนการเรียนรู้ที่เน้นทักษะอาชีพ ผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติในห้องเรียนชีวิตจริง SDG 8: การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth) […]

โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน กิจกรรมที่ 4 การเขียนบทความวิจัย/บทความวิชาการเพื่อเผยแพร่ในระดับชาติและนานาชาติ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 11–12 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้อง HUSO SM3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริมบุคลากรให้พัฒนาศักยภาพด้านการเขียนบทความวิชาการ ขับเคลื่อนการผลิตผลงานวิจัยและบทความเผยแพร่ในระดับชาติและนานาชาติ และสนับสนุนการบูรณาการงานวิจัยเข้ากับการเรียนการสอนและการพัฒนามหาวิทยาลัยและท้องถิ่น ผลจากการอบรม บุคลากรได้รับความรู้และทักษะที่เป็นระบบในการเขียนบทความวิชาการ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพร่วมกัน พร้อมทั้งมีแนวทางและเครื่องมือสำหรับการสร้างผลงานวิชาการที่ได้มาตรฐาน การอบรมแบบ Workshop-based ช่วยให้บุคลากรฝึกปฏิบัติจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้เชิงลึกและสร้างผลงานวิชาการได้จริง พร้อมเปิดโอกาสให้เข้าสู่เวทีวิชาการระดับชาติและนานาชาติ เสริมศักยภาพการแข่งขันทางวิชาการและสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย โครงการนี้ยังสนับสนุนการเติบโตทางวิชาการของบุคลากร ช่วยให้สามารถก้าวหน้าในตำแหน่งทางวิชาการได้ และยกระดับคุณภาพการสอนและการเรียนรู้ภายในสถาบัน ผลลัพธ์ดังกล่าวสอดคล้องกับ SDG 4 การศึกษาที่เท่าเทียม เนื่องจากโครงการไม่เพียงสร้างโอกาสการเรียนรู้ แต่ยังยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไปสู่มาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 ดร.จันทร์พร ช่วงโชติ รองคณบดีวิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยบุคลากรของวิทยาลัยฯ เข้าร่วมกิจกรรม วันสตรีไทย ประจำปี 2568 จัดโดยองค์กรสตรีเทศบาลนครเกาะสมุย ณ ลานจอดรถท่าเทียบเรือหน้าทอน กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญในการ จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ และผู้ป่วยติดเตียง ตลอดจนเป็นเวทีในการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคม วัฒนธรรม และท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ งานวันสตรีไทยยังมีบทบาทสำคัญในการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาลนครเกาะสมุย ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงพลังของสตรีไทยที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาชุมชนและสังคมในทุกมิติ SDG 1 ขจัดความยากจน (No Poverty):การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส เป็นการลดความเหลื่อมล้ำและสนับสนุนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสขั้นพื้นฐาน SDG 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being):การช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ประสบปัญหาสังคม เป็นการดูแลสุขภาพกายและใจ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น SDG 5 ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality):การจัดงานวันสตรีไทย เป็นเวทีสะท้อนบทบาท ความสามารถ และพลังของสตรีในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างเท่าเทียม SDG 11 […]

กิจกรรมพัฒนาศักยภาพนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ภายใต้คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยมีเป้าหมายให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ผ่านการอบรมและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “ตามรอยวรรณกรรมพุทธทาสภิกขุ” กิจกรรมนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–5 และ 8 สิงหาคม 2568 ณ วัดธารน้ำไหล (สวนโมกขพลาราม) อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านวรรณกรรมและศาสนา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองทางวิชาการ การดำเนินงานของโครงการนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เป้าหมายที่ 4: การศึกษาที่เท่าเทียม (Quality education) เนื่องจากเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการวิเคราะห์ การตีความวรรณกรรม และการเชื่อมโยงเนื้อหาทางวรรณกรรมกับประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม และศาสนา ผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและประสบการณ์ตรง นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาทักษะการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการคิดเชิงวิพากษ์ ในมิติของการมีส่วนร่วมกับชุมชน โครงการนี้เปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้สัมผัสกับแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น เกิดการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยส่งเสริมความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจนกระตุ้นให้ชุมชนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่ ประโยชน์ที่นักศึกษาได้รับคือการยกระดับความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับวรรณกรรมและบริบททางสังคมของผลงานพุทธทาสภิกขุ ขณะที่ชุมชนได้รับการเผยแพร่และต่อยอดคุณค่าทางวัฒนธรรมในวงกว้าง ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนตามเจตนารมณ์ของ SDG 4 และยังสอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยราชภัฏในการเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น” อย่างแท้จริง

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 16 (SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions) มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่สงบสุข ปลอดภัย และมีความยุติธรรม โดยส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม และเสริมสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม การขับเคลื่อน SDG 16 จึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการพัฒนานโยบายภาครัฐหรือการปรับปรุงโครงสร้างสถาบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ (Culture of Peace) ในระดับบุคคลและชุมชน ซึ่งภาคการศึกษา โดยเฉพาะในสายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีบทบาทอย่างสำคัญยิ่ง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จึงเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงหลักการของ SDG 16 เข้ากับการพัฒนาคนและสังคม ผ่านสามภารกิจหลัก ได้แก่ 2. การบริการวิชาการและการสร้างเครือข่ายสันติภาพ ประโยชน์เชิงรูปธรรมจากการขับเคลื่อน SDG 16 ผ่านคณะฯ ได้แก่ ด้วยเหตุนี้ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จึงไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ด้านการศึกษาในความหมายดั้งเดิม แต่ยังเป็น “ศูนย์กลางการสร้างทุนมนุษย์เพื่อสันติภาพ” ที่สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับเป้าหมาย SDG 16 และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความสงบสุขและยั่งยืนอย่างแท้จริง

กิจกรรมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามจำนวน 2,500,000 ตัวลงในบึงขุนทะเล เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่างศูนย์บริการวิชาการท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กลุ่มประมงพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บึงขุนทะเล เทศบาลตำบลขุนทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นับเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องโดยตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 12 ว่าด้วยการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อการบริโภคในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศแหล่งน้ำจืด และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ ลดแรงกดดันจากการจับสัตว์น้ำในธรรมชาติอย่างไม่ยั่งยืน ทั้งนี้ การปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำท้องถิ่นยังช่วยสนับสนุนให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในด้านอาหาร ลดการนำเข้าหรือพึ่งพาสินค้าจากภายนอก อันเป็นหัวใจสำคัญของแนวคิดการผลิตและการบริโภคที่คำนึงถึงความยั่งยืน ผลกระทบที่เห็นได้ชัดจากกิจกรรมนี้คือการสร้างสมดุลทางนิเวศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณภาพและยั่งยืน สร้างรายได้และเสริมเศรษฐกิจฐานรากผ่านการประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชุมชน โดยเฉพาะเยาวชนในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วม โดยสรุป กิจกรรมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในโอกาสสำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นรูปธรรมของการลงมือปฏิบัติที่สะท้อนหลักการของ SDG 12 ได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านการฟื้นฟูทรัพยากร การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างวิถีการผลิตและการบริโภคที่คำนึงถึงความยั่งยืนในทุกระดับของสังคมไทย