Author: โชคชัย มลิวรรณ์ ศูนย์สุขภาพชุมชน

วันนี้ (4 สิงหาคม 2568) ดร.กฤษณะ ทองแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและเครือข่ายศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบริการทางสุขภาพและความปลอดภัย กิจกรรมการป้องกันภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ โดยมี ผศ.กฤษณา สังขมุณีจินดา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายชุมชนสัมพันธ์และส่งเสริมสุขภาพชุมชน กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมพุทธทาส สำนักศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีเข้าร่วมมากกว่า 50 คน โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการดูแลสุขภาพสมองให้แก่ผู้สูงอายุ เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด การเสริมสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสม และการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการรับใช้สังคม ตามแนวทาง SDG โดยเฉพาะด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDG 3) และการสร้างสังคมที่ทุกช่วงวัยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยในระยะยาว

วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 การบริจาคโลหิต ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมจิตอาสาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะโลหิตคือสิ่งที่ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ในห้องทดลอง และมีความจำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยในหลากหลายกรณี เช่น การผ่าตัด การรักษาโรคโลหิตจาง และอุบัติเหตุต่างๆ การที่ใครสักคนเลือกที่จะสละโลหิตของตนเอง จึงเท่ากับเป็นการมอบโอกาสในการมีชีวิตอยู่ให้กับผู้อื่นอีกครั้ง กิจกรรมบริจาคโลหิตไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกถึงความเสียสละและเมตตาธรรมเท่านั้น แต่ยังมีผลเชิงบวกต่อสุขภาพของผู้บริจาคเองด้วย เช่น การกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่ การตรวจคัดกรองสุขภาพขั้นต้นก่อนบริจาค ฯลฯ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การบริจาคโลหิตคือกิจกรรมที่ทั้ง “ให้” และ “ได้” อย่างแท้จริง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยศูนย์สุขภาพชุมชน ได้ตระหนักถึงบทบาทในการสร้างสังคมแห่งการเกื้อกูล จึงได้จัดกิจกรรม บริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2568 กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความจงรักภักดีเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ต่อสังคม การจัดกิจกรรมในรูปแบบนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในด้าน SDG (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะข้อที่ […]

วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ศูนย์สุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) จัดกิจกรรม บริจาคโลหิต เนื่องในวันสำคัญของชาติ ได้แก่ วันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์สุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ แสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดจนเป็นการส่งเสริมจิตสาธารณะของนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย ผ่านการร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น การจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG) โดยเฉพาะในด้าน “สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” (SDG 3) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มุ่งมั่นเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และการลงมือทำจริง เพื่อสร้างพลเมืองที่มีจิตอาสา มีจิตสำนึกต่อสังคม

ศูนย์สุขภาพชุมชนของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ขับเคลื่อนพันธกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ ด้วยความมุ่งมั่นตามแนวคิด “พัฒนาอย่างยั่งยืน” (Sustainable Development หรือ SDG) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเป้าหมายที่ 3 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่เหมาะสมสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเองเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะของตนเองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัว โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานพยาบาล ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มที่อาจมีความกังวลใจเรื่องการเปิดเผยตัวตน เช่น วัยรุ่น กลุ่ม LGBTQ+ หรือผู้ที่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการต้อนรับในสถานพยาบาลทั่วไป การให้บริการชุดตรวจนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสิทธิในการตรวจหาเชื้อ HIV อย่างเท่าเทียม และยังส่งเสริมให้เกิดการ รู้สถานะของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเริ่มต้นการรักษาอย่างทันท่วงที และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้อื่นในระยะยาว นอกจากนี้ ยังถือเป็นการผลักดันให้สังคมมีความเข้าใจและเปิดใจมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นประเด็นที่เคยถูกตีตราทางสังคมอย่างหนักในอดีต มหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน แต่ยังสามารถเป็น “ต้นแบบ” ในการสร้างแนวทางใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ บทบาทของ มรส. ในการจัดตั้งศูนย์สุขภาพชุมชน และการให้บริการชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริงนอกจากบริการตรวจ HIV แล้ว ศูนย์สุขภาพยังมีการจัดอบรมและรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษา ความปลอดภัยทางเพศ การป้องกันโรคติดต่อ และการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ ทั้งในกลุ่มนักศึกษาและประชาชนทั่วไป การดำเนินงานทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับเป้าหมาย SDG ด้านสุขภาพ […]