
วิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โชว์ศักยภาพ Soft Power สู่เวทีโลกในงาน Thai Fest Moscow 2025
วิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) นำโดย ดร.จันทร์พร ช่วงโชติ รองคณบดีวิทยาลัยฯ พร้อมด้วยคณาจารย์ และนักศึกษา เข้าร่วมแสดงศักยภาพในงาน “Thai Fest Moscow 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 สิงหาคม 2568 ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นายวิชวุทย์ จินโต ตัวแทนคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
การเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นการยกระดับ Soft Power ไทย ผ่านมิติวัฒนธรรม ศิลปะ และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะจากพื้นที่ภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย ซึ่งวิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย ได้นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ภายใต้บริบทการเรียนการสอน การวิจัย และการพัฒนาชุมชนที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น
กิจกรรมไฮไลต์ของวิทยาลัยฯ ภายในงาน ได้แก่:
- การแสดงศิลปวัฒนธรรม “โนราห์ภาคใต้” ถ่ายทอดโดยอาจารย์และนักศึกษา ถ่ายทอดอัตลักษณ์ภาคใต้สู่นานาชาติ
- “แฟชั่นโชว์ผ้าสมุย” คอลเลกชั่นพิเศษที่วิทยาลัยฯ ออกแบบร่วมกับชุมชน สะท้อนการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาและแฟชั่นร่วมสมัย
- นิทรรศการและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยและความร่วมมือกับชุมชน อาทิ
- ผลิตภัณฑ์ลายผ้าสมุย
- กระเป๋ากระจูด
- เสื้อกางเกงลายมวยไชยา
- ผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากสารสกัดแตงกวาและมังคุด
- ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรออร์แกนิก
- และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
การเข้าร่วมงาน Thai Fest Moscow 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญของวิทยาลัยสหวิทยาการ เกาะสมุย ในการเผยแพร่งานด้านวิชาการ ศิลปะ วัฒนธรรม และการวิจัยเชิงพื้นที่สู่ระดับนานาชาติ ซึ่งตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่และขับเคลื่อน Soft Power ไทยในเวทีโลก





















SDG 4 – การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education):การมีส่วนร่วมของนักศึกษาในงานแสดงระดับนานาชาติ แสดงถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง นำความรู้ด้านวัฒนธรรม การออกแบบ และนวัตกรรมมาต่อยอด สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
SDG 8 – การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth):การพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับชุมชน เช่น ผ้าสมุย และสมุนไพรท้องถิ่น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ขยายโอกาสทางตลาดใหม่ให้กับสินค้า OTOP และสินค้าท้องถิ่น
SDG 11 – เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities):ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมไทย เช่น มโนราห์ และมวยไชยา เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน
SDG 12 – การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน (Responsible Consumption and Production):ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอหลายรายการเน้นวัตถุดิบธรรมชาติ สมุนไพร และกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน
SDG 17 – ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals):ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) มหาวิทยาลัย (มรส.) ชุมชน และหน่วยงานในต่างประเทศ สะท้อนการสร้างเครือข่ายพัฒนาที่ยั่งยืน